รู้จักยาง Bridgestone ยางยอดนิยมอันดับต้นๆ ของเมืองไทย
Bridgestone
ถ้าหากให้คุณนึกยี่ห้อแบรนด์ยางรถยนต์ชื่อดังของโลก คุณจะนึกถึงแบรนด์อะไร?
เชื่อว่า "Bridgestone บริดจสโตน" จะต้องเป็นแบรนด์อันดับต้นๆ ในความคิดของใครหลายคนอย่างแน่นอน สำหรับใครที่กำลังสงสัยว่ายาง Bridgestone นั้นดีอย่างไร ใช้แล้วคุ้มค่าจริงไหม
แล้วทำไม Bridgestone ถึงเป็นยางรถยนต์อันดับต้นๆ ที่คนทั่วโลกเลือกใช้
วันนี้ ก.เจริญยางยนต์ และ ก.เจริญค็อกพิท จะพาคุณไปรู้จักยาง Bridgestone กันมากขึ้น แบบรู้ลึก รู้จริงกัน
Bridgestone แบรนด์ผลิตยางรถยนต์ระดับโลก
Bridgestone เป็นแบรนด์ผลิตชิ้นส่วนและยานยนต์สัญชาติญี่ปุ่น ที่นอกจากจะมีชื่อเสียงโด่งดังจนเป็นที่ยอมรับในระดับสากลแล้ว ปัจจุบันยังเป็นบริษัทผู้ผลิตยางรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของโลกด้วย เนื่องจากยางรถยนต์ของ Bridgestone นั้นมีคุณสมบัติที่ตอบโจทย์ได้ครบทุกความต้องการทั้งยางรถกระบะและยางรถเก๋ง นอกจากนี้ทางแบรนด์ยังได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยของยางสม่ำเสมอ เพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถในทุกสภาพถนนได้เป็นอย่างดี
สำหรับยางรถยนต์รุ่นแรกของ Bridgestone นั้นถูกผลิตขึ้นในวันที่ 9 เมษายน 1960 โดยการคิดนอกกรอบด้วยการนำส่วนผสมของยางมาเป็นวัสดุในการแก้ไขถุงเท้าที่มักจะขาดบ่อยๆ จนนำมาสู่การพัฒนาและต่อยอดมาเป็นการผลิตยางรถยนต์ในที่สุด
เป็นที่รู้จักและนิยมใช้งานแพร่หลายในประเทศไทย
สำหรับสาเหตุที่ทำให้ยาง Bridgestone เป็นแบรนด์ที่รู้จักและได้รับความนิยมจนมียอดขายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในประเทศไทยนั้น นอกจากจะเป็นเรื่องของคุณภาพและเทคโนโลยีของยางรถยนต์แล้ว อีกเหตุผลหนึ่งก็มาจากการเปิดศูนย์บริการรถยนต์ภายใต้การดูแลของ Bridgestone ในชื่อ Cockpit
ซึ่งศูนย์บริการรถยนต์ครบวงจรนี้ นอกจากจะขายยางรถยนต์, แบตเตอรี่, น้ำมันเครื่อง, ผ้าเบรก, โช็คอัพ ใบปัดน้ำฝน และอุปกรณ์ประดับยนต์ต่างๆ แล้ว ทางศูนย์ก็ยังมีบริการอื่นๆ ด้วย เช่น ตรวจเช็กสภาพยาง ตั้งศูนย์ล้อ ถ่วงล้อ และดูแลยางรถยนต์ รวมถึงล้อแม็กทุกประเภทด้วย
ยาง Bridgestone ดีกว่าอย่างไร
อย่างที่เรารู้กันดีว่ายางรถยนต์นั้นเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของรถทั้งในแง่ของการทรงตัว และการรับน้ำหนักรถ ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องเลือกยางรถยนต์ที่ดี ใช้งานได้ทนทาน และมีคุณภาพ เพื่อให้การขับขี่บนท้องถนนปลอดภัยมากที่สุด
สำหรับ Bridgestone ไม่ได้เป็นเพียงแค่ผู้ผลิตยางรถยนต์อย่างเดียวเท่านั้น แต่เรียกได้ว่าเป็นแบรนด์ที่สามารถตอบโจทย์ทุกการเดินทางได้อย่างครบวงจร จะเห็นได้จากนโยบายการผลิตยางของ Bridgestone ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการผลิตโดยมีมาตรฐานเดียวกันในทุกโรงงานทั่วโลก
นอกจากนี้ยางทุกเส้นของ Bridgestone จะต้องผ่านการทดสอบด้วยเจ้าหน้าที่ที่มีความเชี่ยวชาญด้านยางโดยเฉพาะ
โดยจะทำการลงไปสำรวจผ่านสนามทดสอบที่มีพื้นผิวถนนที่หลากหลาย รวมถึงมีการดูแลในทุกขั้นตอนด้วยทีมวิศวกรของ Bridgestone เอง เพื่อให้ผู้ขับขี่มั่นใจได้ว่ายางทุกรุ่นที่ผลิตออกมานั้นสามารถวิ่งได้ดีในทุกสภาพการใช้งานและเหมาะสมกับความต้องการของผู้ใช้รถใช้ถนนมากที่สุด
3 ยางบริดจสโตน ที่คัดมาแล้วว่าดี คุ้มค่า ทนทาน
วันนี้ ก.เจริญยางยนต์ และ ก.เจริญค็อกพิท ก็ได้เลือกยางบริดสโตน 3 รุ่นที่คัดมาแล้วว่าดี คุ้มค่า และทนทานมาให้ลองเลือกพิจารณาให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์การขับขี่ของคุณ จะมีรุ่นไหนบ้างมาดูกัน
TURANZA T005A
ขอบคุณรูปภาพจาก Bridgestone
ยางรุ่นนี้เป็น Passenger Car Tire ที่ขึ้นชื่อในเรื่องความนุ่มสบายในการขับขี่ โดดเด่นด้วยการใช้เนื้อยางแบบใหม่ 'Nano Pro-Tech' ทำให้สัมผัสพื้นผิวถนนได้เต็มที่กว่า จึงสามารถยึดเกาะถนน ควบคุมการเข้าโค้ง และการเบรกได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าห้าหมื่นกิโลเมตรด้วย
โดยยางรถรุ่นนี้เหมาะกับทั้งรถยนต์นั่งหรูหราขนาดกลางและขนาดใหญ่อย่าง Jaguar XJ, Lexus ES, Benz E-Class, BMW 5-Series รวมไปถึงรถยนต์นั่งส่วนบุคคลประเภทขนาดกลางและขนาดใหญ่ เช่น Toyota Camry, Honda Accord, Toyota Corolla Altis และHonda City เป็นต้น
POTENZA ADRENALIN RE004
ขอบคุณรูปภาพจาก Bridgestone
ยางรุ่นนี้นั้นถูกออกแบบมาให้เหมาะสำหรับการขับขี่แบบสปอร์ต ด้วยการออกแบบที่ให้สมรรถนะในการควบคุมอย่างแม่นยำ ตอบสนองฉับไวในการเข้าโค้งทุกรูปแบบ ยึดเกาะถนนได้ดีไม่ว่าถนนเปียกหรือแห้ง จึงทำให้คุณขับขี่ได้อย่างสนุกและมั่นใจได้ในทุกเส้นทาง
สำหรับยางประเภทนี้นั้นเหมาะกับรถยนต์นั่งส่วนบุคคลทุกขนาด ไม่ว่าจะเป็นขนาดเล็ก กลาง หรือใหญ่ ซึ่งรุ่นที่ได้รับความนิยมได้แก่
- Bridgestone re71r
- Bridgestone ALENZA 001
ECOPIA EP150 และ EP300
ขอบคุณรูปภาพจาก Bridgestone
สำหรับใครเป็นสาย Eco Car เน้นการขับขี่แบบประหยัดน้ำมันเป็นหลัก แนะนำใช้ยางรุ่น ECOPIA EP150 และ EP300 ที่มีเทคโนโลยี NANO PRO-TECH ทำให้โมเลกุลซิลิกาในเนื้อยางมีการจัดเรียงตัวได้ดีมากขึ้น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในความต้านทานการหมุน เพื่อช่วยให้รถประหยัดน้ำมันได้มากขึ้น
นอกจากนี้ยังถูกออกแบบและพัฒนาเป็นพิเศษด้วยการผสานรวมนวัตกรรมที่หลากหลายเพื่อให้ได้ยางล้อที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด เช่น ดอกยางที่สามารถกระจายแรงกดได้สม่ำเสมอ ทำให้ช่วยให้รถเกาะบนพื้นถนนเปียกลื่นได้ดีกว่า ถึงการออกแบบของปลายดอกยางแบบ Rib Pattern เพื่อลดการบิดตัวของดอกยางจึงช่วยลดโอกาสในการเสื่อมตัวของยางและช่วยทำให้การขับขี่ดีขึ้นด้วย
ซึ่งยางรถยนต์รุ่น ECOPIA EP150
นั้นจะเหมาะกับรถยนต์นั่งขนาดเล็ก กับ ECO Car และ City Car ทั่วไป โดยมีขนาดยางให้เลือกใช้ตั้งแต่ 13,14,16 และ16 นิ้ว ส่วน ECOPIA EP300 จะเป็นยางที่เหมาะสำหรับสำหรับรถเก๋งส่วนบุคคลขนาดกลาง มีให้เลือกใช้งานตั้งแต่ 15-17 นิ้ว
สำหรับใครที่ต้องการเปลี่ยนยาง Bridgestone ที่เหมาะสมกับรถและไลฟ์สไตล์การขับขี่ของคุณ สามารถเข้ามาปรึกษาพูดคุย หรือขอรับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญได้ที่ ก.เจริญยางยนต์ และ ก.เจริญค็อกพิท เรายินดีให้บริการ
SHARE THIS STORY
RELATES TAGS