Tesla Roadster รถยนต์เปิดตำนานของแบรนด์ Tesla

Tesla Roadster

Tesla Roadster รถยนต์เปิดตำนานของแบรนด์ Tesla

ในยุคปัจจุบันที่ราคาน้ำมันสูงขึ้นเรื่อยๆ นั้น การใช้ยานพาหนะที่ใช้น้ำมันน้อยลง ก็ดูจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย นั่นจึงเป็นที่มาว่าทำไมรถพลังงานไฟฟ้า หรือรถ EV ถึงมีบทบาทมากขึ้นแบบก้าวกระโดดในวงการยานยนต์ทั่วโลกไม่เว้นแม้แต่ในประเทศของเราเอง ซึ่งหนึ่งในแบรนด์ที่ปลุกกระแสของรถไฟฟ้าให้เป็นที่สนใจในวงกว้างนั่นก็คือ Tesla Roadster รถยนต์ที่เป็นเหมือนรุ่นเปิดตำนานของแบรนด์ Tesla ในบทความนี้ ก.เจริญยางยนต์ และ ก.เจริญค็อกพิท จึงจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับรถรุ่นนี้กันให้มากขึ้น

เปิดจุดเริ่มต้นของ Tesla Roadster

ความเป็นจริงรถพลังงานไฟฟ้านั้นมีวางจำหน่ายมานานแล้ว แต่อาจจะผิดที่ผิดเวลาไปหน่อย เลยทำให้กระแสตอบรับไม่ดีเท่าที่ควร จนกระทั่งเทสล่ากลับมาทำให้กระแสของรถพลังงานไฟฟ้ากลับมาได้รับความสนใจอีกครั้ง ซึ่งรถที่เทสล่าส่งมาเปิดการเดินทางเป็นรุ่นแรกก็คือ Tesla Roadster

รถยนต์ Tesla Roadster เป็นรถสปอร์ตไฟฟ้าที่ผลิตโดยบริษัท Tesla, Inc. (ชื่อเดิม Tesla Motors) บริษัทของมหาเศรษฐีอย่าง (Elon Musk) “อีลอน มัสก์”  นักธุรกิจและวิศวกร สัญชาติแอฟริกาใต้-แคนาดา-อเมริกัน โดยเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์คันแรกในชื่อรุ่น Tesla Roadster ในปี 2008 

สำหรับ Tesla รุ่น Roadster นั้นเริ่มต้นมาจากการเอาโครงของ Lotus Elise/Exige มาพัฒนาและดัดแปลงขึ้นใหม่ ให้ตัวรถวิ่งได้โดยชาร์จไฟบ้าน โดยมีความสามารถในการเร่งความเร็วพุ่งจาก  0 ถึง 97 กม./ชม. โดยใช้เวลาเพียง ประมาณ 3.7 วินาที สามารถเดินทางได้ไกลกว่า 200 ไมล์ หรือ 320 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง นอกจากนี้ Tesla Roadster ยังดึงดูดความสนใจจากคนทั่วโลกด้วยการส่ง รถTesla Roadster ซึ่งเป็นคันส่วนตัวของ Elon Musk ออกไปสู่อวกาศนอกโลกเพื่อให้มันล่องลอยต่อไปอีกนับพันปี เป็นคันแรกของโลกอีกด้วย

พัฒนาอย่างต่อเนื่องสู่ Tesla Roadster รุ่นที่ 2

และในปี 2017 บริษัทเทสล่า ได้ประกาศเปิดตัว Tesla Roadster รุ่นที่ 2​ ซึ่ง​Tesla Roadster รุ่นที่ 2 นี้ เป็นรถสปอร์ตไฟฟ้า 2 ประตู เปิดประทุน 4 ที่นั่ง ขับเคลื่อน 4 ล้อ จากพลังไฟฟ้าล้วนๆ โดยครั้งนี้ไม่ได้มีการหยิบยืมโครงสร้างของรถรุ่นไหนมาต่อยอดในการพัฒนาอีกต่อไป แต่เป็นการออกแบบและดีไซน์ขึ้นใหม่โดยทีมงานของ Tesla ทั้งหมด โดยคำนึงถึงประสิทธิภาพและสมรรถนะในเชิง Aero Dynamics ด้วย

สำหรับดีไซน์​ของ​ Tesla Roadster 2 นั้นยังคงความสปอร์ต​ที่ดูเท่​ หรู​ และเร้าใจตามแบบฉบับที่เป็นซิกเนเจอร์​ของเทสล่า​ ให้ความรู้สึกที่ดุดันขึ้นด้วยตัวถังที่กว้าง ความสูงที่ไม่ลอยจากพื้นมากนัก​ มาพร้อมล้อขนาดใหญ่ รวมถึงเส้นสายที่เฉียบคม

โดยจะมีมาให้เลือกตามไลฟ์สไตล์​ผู้ขับขี่ถึง​ 2 เวอร์ชัน​ คือแบบสปอร์ตคูเป้ 2 ประตู 4 ที่นั่ง และแบบเปิดประทุน 

นอกจากนี้ Tesla Roadster รุ่นนี้ยังมากับตัวถังแบบ Targa ที่สามารถเปิดเฉพาะแผ่นหลังคากระจกแบบถอดได้และมีน้ำหนักเบาสามารถจะเก็บในกระโปรงหลังเพื่อเปิดประสบการณ์ในการขับขี่แบบเปิดประทุนเพื่อรับลมเย็นในขณะขับขี่ได้ 

การตกแต่งภายใน​ เท่​ ดุดัน​ ทันสมัย

การตกแต่งภายในของ Tesla Roadster รุ่นที่2  นี้​ เป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างความหรูหราและเทคโนโลยี เป็นการออกแบบที่เรียบง่าย​ แต่ยังคงไว้ซึ่งความเท่​ ดุดัน​ ประณีต​ และทันสมัย​ มาพ​ร้อมวัสดุคุณภาพสูง​ เพื่อ​มอบประสบการณ์ที่สะดวกสบายให้กับทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร 

ตัวห้องโดยสารได้รับการออกแบบให้กว้างขวาง ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่วางขาและพื้นที่เหนือศีรษะ นอกจากนี้​ตัวหลังคากระจกยังช่วยเพิ่มความรู้สึกของพื้นที่ให้กว้างขึ้น​ อีกทั้งยังสามารถ​มองเห็นท้องฟ้าด้านบนได้อย่างไม่มีสิ่งกีดขวาง

Tesla Roadster

ขีดสุดแห่งสมรรถนะในการขับเคลื่อน

สิ่งที่น่าสนใจของ Tesla Roadster รุ่นที่ 2 นั้นไม่ได้อยู่ที่รูปร่างหน้าตาของรถแต่อยู่ที่สเปกพื้นฐานของ Tesla Roadster ใหม่นี้มากกว่า ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของความเร็วในการขับขี่ รวมถึงสิ่งที่หลายคนเป็นกังวลอย่างระยะทางในการวิ่งต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง

เนื่องจากข้อจำกัดหนึ่งของรถพลังงานไฟฟ้าก็คือระยะทางที่สามารถวิ่งได้ เพราะถ้าอยากให้รถวิ่งได้ไกล ก็ต้องอาศัยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่เพื่อกักเก็บกระแสไฟฟ้าไว้ ซึ่งนั่นก็อาจทำให้มีปัญหาเรื่องของน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นตามมาด้วย แต่สำหรับ Tesla Roadster นั้น เรียกได้ว่าสามารถก้าวผ่าน และแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ในที่สุด เพราะ Rodster ตัวใหม่นี้สามารถขับได้ไปถึง 620 ไมล์ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง หรือ 997 กิโลเมตรถ้าจะเปรียบเทียบให้เห็นภาพก็คือเราสามารถขับรถจากกรุงเทพขึ้นเชียงใหม่ หรือกรุงเทพไปภูเก็ตได้แบบสบายๆ โดยไม่ต้องแวะชาร์จเลย  

นอกจากนี้ทางเทสล่ายังได้ออกมาบอกอีกว่า Tesla Roadster รุ่นที่ 2 นี้จะมีความสามารถในการเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 60 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือ 0 ถึง 97 กม./ชม. โดยใช้เวลาเพียง 1.9 วินาทีเท่านั้น ซึ่งความเร็วที่ว่านี้ถือเป็นตัวเลขที่ไม่เคยมีรถพลังงานไฟฟ้าค่ายไหนทำได้มาก่อน

ก เจริญ

รวมเทคโนโลยีสุดล้ำแบบจัดเต็ม

อีกหนึ่งสิ่งที่หลายคนนึกถึงเมื่อพูดถึงเทสล่าคงหนีไม่พ้นเรื่องเทคโนโลยีที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการขับขี่ ซึ่งแน่นอนว่า Tesla Roadster ตัวล่าสุดนี้ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ด้วยเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติรุ่นล่าสุด มาพร้อมกล้องรอบทิศทาง 8 ตัว เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถมองเห็นรอบตัวรถได้ทั้ง 360 องศา อีกทั้งยังสามารถมองได้ไกลถึง 250 เมตร 

นอกจากนี้ ยังมีเซนเซอร์อุลทราโซนิคที่ทำหน้าที่ในการตรวจจับวัตถุต่างๆ ได้หลายประเภท ทั้งแข็งและอ่อน อีกทั้งยังสามารถมองเห็นแม้จะเจอฝนตกหนัก หรือฝุ่นหนาก็ตาม ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้มีส่วนช่วยในการลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุได้มากทีเดียว

สำหรับ​ราคาจำหน่ายเริ่มต้นนั้นจะอยู่ที่ $200,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 6 ล้านบาท สำหรับรุ่น Roadster เปิดประทุน​ และราคา $250,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 7.48 ล้านบาท สำหรับรุ่น Founders Series​ หรือรุ่น​ 2 ประตู 4 ที่นั่ง​ โดยมีการเปิดให้จองสิทธิ์ในราคา $50,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 1.5 ล้านบาท​

สรุป

แม้ตอนนี้ค่ายรถอื่นๆ จะหันมาทำรถยนต์ประเภทพลังงานไฟฟ้า และทยอยปล่อยออกสู่ตลาดยานยนต์กันมากแล้ว แต่ Tesla Roadster ก็ยังครองตำแหน่งตำนาน ด้วยความล้ำสมัย และไม่เคยหยุดพัฒนา ทั้งในฝั่งเทคโนโลยีและสมรรถนะในการขับขี่ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไม Tesla จึงเป็นแบรนด์ที่เป็น Top of Mind ของคนที่ต้องการซื้อรถไฟฟ้ามาโดยตลอด

สำหรับลูกค้าท่านใดที่ต้องการคำแนะนำหรือต้องการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับยางรถยนต์​ การเปลี่ยนยาง หรือบริการอื่นๆ​ เพิ่มเติม​ สามารถติดต่อได้ผ่านทุกช่องทางการสื่อสารของเราได้​ตลอด​เวลา

สาขาสุขุมวิท 91 : 02-331-9911

 Line: @kc4418 (มี@นะครับ) หรือ กดลิ้งค์นี้ได้เลยครับ https://lin.ee/Owcvu5q

พิกัด: https://g.page/KCharoenYangyont?share

สาขาอุดมสุข (K Charoen Cockpit): 02-393-3356

 Line: @kcockpit (มี@นะครับ) หรือ กดลิ้งค์นี้ได้เลยครับ  https://lin.ee/7M1kdjn

พิกัด: https://goo.gl/maps/W3xSvEGTiWKQB5Ce7

 

0 Comments

ใส่ความเห็น


ให้คำปรึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญ

เราพร้อมบริการและให้คำแนะนำคุณ
ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญกว่า 35 ปี

© 2009 - 2017 K.Charoenyangyont Co., Ltd. & Mink & Seen Co., Ltd.